วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

นอนสนามบิน JFK 6 คืน

ผมขอเกลิ่นก่อนน่ะครับ ผมไม่เคยเขียนบล็อค เขียนพันทิฟ พึ่งจะมาศึกษาเรื่องการเขียนบล็อค เลยอาจจะเขียนไม่ดีเท่าไหร่น่ะครับ อย่าว่ากันเลยน่ะครับ

ผมจะเล่าประสบการณ์ การนอนที่สนามบิน JFK 6 คืน เพื่อที่รอกลับไทยครับ  ช่วงนั้นเป็นช่วงซัมเมอร์ของมหาวิทยาลัยในไทยครับ   เด็กๆบางคนก็อยากจะออกไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศบ้าง   ผมก็เป็นส่วนหนึ่งในคนพวกนั้นครับ ก็เลยตัดสินใจขอให้ แม่ผู้เป็นที่รักยิ่งออกค่าไป work and travel ครับ เป็นเวลา 3 เดือนครับ ไปคนเดียวครับไม่มีเพื่อนไปด้วยครับ เพราะผมต้องการพูดภาษาอังอฤษ ให้ได้และเอาตัวรอดด้วยตัวเองให้รอดครับ

    ผมขอข้ามตอนทำงานซ้ำๆๆๆๆ แล้วกันน่ะครับ เพื่อที่จะเข้าเรื่องนอนสนามบินเลย  ผมทำงานจากเมือง North Carolina ก็บินตรงมาที่ New York ครับ เพราะมีพี่ที่รู้จักเค้าก็จะมาเที่ยวที่นี้เหมือนกัน  เค้าทำงานที่สวนสนุกใน Florida เราก็เลยนัดกันเพื่อมาเที่ยวแล้วก็นอนด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย  ตอนนั้น เงินติดตัว ผมมีประมาณ 1600 USD ครับ เงินเก็บจากการทำงาน  เก็บเพื่อมาเที่ยว New York จริงๆครับ ก็ได้นอนโรงแรม เป็นเวลา  8 คืน ครับนอน ใจกลาง Time Square



    จริงๆผมต้องอยู่ New York เป็นเวลา 15 วันครับ แต่พี่ที่มาเที่ยวด้วยกันเขาต้องกลับก่อนเรา 7 วัน เลยต้องจองโรงแรมไว้แค่ 8 วันเท่านั้น หลังจากนั้นเราก็เที่ยวๆ แล้วก็เที่ยวกันอย่างสนุกสนาม
แต่เมื่อวัน Check - Out มาถึงผมก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วครับเพราะว่าไม่รู้ต้องไปนอนที่ไหนก็เลตัดสินใจ ไปสนามบินก่อนแล้วกัน  จากนั้นเวลา 10 โมง ของวันที่ 8 ใน New York ก็มาถึงเดินทางไปส่งพี่ที่สนามบิน  JFK พี่เค้าบินไฟล์ ประมาณ 2 โมง หรือ 3 โมง นี้แหละครับผมก็จำได้ไม่แม้นเท่าไหร่  ประมาณ 2 ปี แล้วครับ



พอผมไปส่งพี่ ที่ Terminal ของ Delta Airline ผมก็เหมือนโลกทั้งโลกนี้เหลือผมคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ ภาษาอังกฤษผมไม่ได้ดีอะไรเลยครับ แค่พอพูดได้ ถ้าจับประโยคสำคัญๆ ของคนที่สนทนาด้วยได้ครับ สนามบิน JFK นั้นมีทั้งหมด 8 Terminal ครับ



จากนั้นผมก็ไม่รู้จะไปไหน ขากลับผมต้องนั่งสายการบิน Korean Air กลับซึ่งอยู่ Terminal 1 ผมก็ลากกระเป๋า 2 ใบ ไปนั่ง Airport link ไปตามเส้นทางของมัน เพื่อไป terminal 1 พอถึงผมก็ไม่รู้จะไปไหน  ผมมีแค่ Ipad เครื่องเดียวที่อยู่กับผม ที่สามารถแก้เหงาให้ผมได้  ผมก็ได้ ขึ้นไปที่ศูนย์อาหารครับมีเก้าอี้ให้นั่งเยอะแยะไปหมด มี Mc donald อยู่ด้วยครับ  ผมก็ได้นั่งที่นั้นสักพักครับ เพื่อหาเน็ตเล่น  แต่ เน็ตมันเป็นของสนามบินครับ ต่อปุ๊บมันเข้าได้ครับ เหมือนจะเล่นได้ แต่มันให้เราเล่นแค่ 1 นาที ครับถ้าอยากเล่นต่อต้องซื้อเพิ่มครับแพงมาก

ผมก็เลยออกจาก Terminal 1 ลากกระเป๋าไป Terminal 2 3 เพื่อหาสัญญาณเน็ตที่ฟรีไม่ต้องเสียตัง แต่ก็ไม่มีครับ ต่อไป Terminal 4 จากที่ผมหาข้อมูล สามารถมานอน ที่ Terminal  4 นี้ได้น่ะครับ เพราะเปิด 24 ชม. แต่คนเยอะมากครับ เพราะเหมือนจะเป็น terminal รวมสายการบิน คนเยอะมาก แขกๆ มีหนวดๆ เหม็น เยอะไปหมดเลยครับที่นี้มีอาหารให้เลือกกินเยอะมากครับ แต่ผมก็ไม่กินครับเพราะคนเยอะแล้วมันสกปรกครับ


ตามภาพครับ ผมเดินทัวร์แล้วครับ เพื่อหา WiFi ฟรีให้เล่นครับ แต่ที่นี้ก็ไม่มีครับ ถ้าใครมีกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบเท่าผม แนะนำให้ หยอดเหรียญเอารถเข็นมาใช้ครับ 5 USD ครับ  แต่ผมไป Terminal 4 แล้วผมไม่อยากเสียตังครับ ผมเลยไปอยู่แถวช่อง Check - in ชั้น 3 ครับ เตรียมขโมยรถเข็นที่เค้าจะเอามาทิ้งไว้ครับ   จากนั้นผมก็ได้รถเข็นประจำตัวแล้วครับ ไม่ต้องลากๆๆ ยกๆๆ ให้เหนื่อยแล้วครับ แต่แนะนำให้ หยอดเหรียญดีกว่าครับ แต่ตอนนั้นผมอยู่เมืองนั้น ผมเริ่มเป็นคนเห็นแก่ตัวแล้วครับ แย่งกันกินแย้งกันใช้

    ต่อไปผมก็นั่ง Airport link ต่อไปที่ terminal 5  ใครที่ได้ดูฮอร์โมน ตอนวิน นั้นแหละครับ เค้ามาถ่ายที่ Terminal 5 นี้แหละครับ เพราะมีสายการบินเดียวครับ คือ Jet Blue เป็นสายการบินของอเมริการาคาถูกครับ  แต่เดินจาก Airport link ไกลพอสมควรครับ  Terminal นี้ไม่มีอาหารขายน่ะครับ เสียใจด้วยครับ
แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   Terminal 5 นี้ มี wifi ให้เล่น ฟรีน่ะครับผมมมมม พอผมรู้ที่เล่นเน็ตผมก็ดีใจแล้วครับก็เลยไปเที่ยว terminal 6 - 7 - 8 ต่อ เพื่อจะได้รู้ว่ามันมีเน็ตรึป่าวครับ


  ตามภาพครับ Terminal นี้โคตรไกลเลยครับ  ต่อไปผมก็ไป terminal 6 - 7 - 8 ครับ แต่ 3 terminal ไม่มีเน็ตให้ผมเล่นฟรี เลยครับ แต่ 3 terminal มีร้านกาแฟ สตาบัค อยุ่ที่ 3  Terminal เลยครับ

ผมอยู่สนาบินทั้งหมด 6 คืน ครับ  มาเริ่มที่คืนแรกเลยครับ อย่าถามครับว่า ทำไมไม่ไปเปิดโรงแรมนอน ผมบอกเลยครับ ตอนนั้นเงินผมเหลือ อยู่เงินสด  300 USD ครับ ผมไม่เสี่ยงครับ ถ้าอยู่ข้างนอกมีอะไรให้จ่ายเยอะครับ

DAY 1 วันแรกนั้นอย่างที่เล่าไปครับผมยัง งงๆ กับสนามบินนี้ครับ และกลัวคนด้วยเพราะผมอ่านจากที่คนนอนสนามบิน แล้วเจอคนดำจะมาขโมยของ ทำตัวไม่น่ารักเลย ผมก็กลัวสิครับ ผมก็ก่ะว่าคืนแรกผมจะนั่งเล่น ipad ทั้งคืนครับไม่นอน อยู่ที่ Terminal 5 นั้นแหละครับ  
     ผมก็เริ่มจากไปเช็คเที่ยวบินของ terminal นี้ก่อนครับ ว่ามีถึงกี่โมง รอบแรกกี่โมง รอบสุดท้ายกี่โมง  พระเจ้าครับ รอบสุดท้าย  ตี 2 รอบแรก ตี 5 ผมเลย สบายล่ะครับมีคนตลอดเวลาไม่กลัวล่ะครับ  ผมก็เลยจับจองที่นั่ง  ที่ครับแล้วเอากระเป่าเดินทางทับกันบนรถเข็นแล้วก็เอาขาตัวเองพาดยาวครับ แล้วก็นั่งเล่น ipad เอาปักไฟ 3 ตามาด้วยครับ เสียบเล่นมันตรงนั้นทั้งคืนครับ 

จากรูปครับจะเห็นทางด้านขวามือ ริมกระจกจะเป็นเก้าอี้ เรียงกันเป้นแถว นั้นแหละครับผมนั่งแถวๆนั้นครับ 

   คืนแรกผมก่ะไม่หลับครับเพราะกลัวด้วยครับ ผมก็เลยหาการ์ตูนดูบ้าง เล่นfacebook บ้าง ครับ แต่ผม สไกด์กับแม่ แล้วบอกว่านอนโรงแรมครับ เพราะผมกลัวแม่เป็นห่วง   จากนั้นก็เล่นจนถึง 4 - 5 ทุ่มครับ คนเริ่ม น้อยลง เรื่อยๆ แต่ไฟเค้าไม่ปิดน่ะครับเปิดไว้ตลอด ผมก็เริ่มงง พักสายตาเป้นพักๆ จน เวลา ตี 2 ครับ  มีเครื่องบิน ดีเลย์ เนื่องจากมีพายุหิมะ เลยทำให้ต้องเดินทาง 6 โมงเช้าวันถัดไป คนเลเอะเป็นพิเศษครับ   แล้วก็มี ฝรั่งคนนึงเดินมาไม่พูดไม่จาครับ นอนลงกับพื้นที่ว่างข้างๆของผมเลยครับ มันไม่อายเลยครับ   ผมก็เริ่มง่วง ก็เลยนอน เอาหมวกปิดหน้า แต่ผมกลัวประเป๋า 2 ใบโดนขโมยเลย เอาเชือกมามัดกระเป๋ากับ ขาตัวเองครับ  ถ้ามีคนดึงเอาไปทั้งผมและกระเป๋าครับ 
   สุดท้ายผมก็หลับตื่นๆอย่างนี้ทั้งคืนครับ  จนถึง  6 โมงเช้าผมก็เก้บของ แล้วก็ไป Terminal 1 ครับเพราะคนน้อยมากแล้วห้องน้ำสะอาด  ผมไป ถึงก็ประมาณ 6 โมงนิดๆ คนยังไม่มีเลย เข้าห้องน้ำแล้วล็อคเลยครับ  ผมก็แปรงฟัน หน้าล้าง สระผม แต่ไม่ได้อาบน้ำเพราะสนามบิน JFK ไม่มีที่อาบน้ำแล้วครับ 

Day 2  เริ่มตั้งแต่ ผมล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วครับ  ก็ออกไปชั้นบน ลานอาหารครับ กิน Mc donald ที่เป็น บิสกิตกับกาแฟครับ ก็กินแล้วก็นั่งเล่นเกมใน ipad แบบไม่มีเน็ต ถึงเวลา 10 โมงครับ คนเริ่มเยอะแล้วครับ ก็ย้ายที่ครับ กลับ ฐาน ไป Terminal 5 เหมือนเดิมนั่งที่เดิม ครับ 

จากรูปครับ จะเห็นด้านบนมีไฟสีแดงๆ ร้านอาหารจีนครับก็อร่อยอยู่ครับ ราคาประมาณ 7 $ ขึ้นครับ ข้างก็เป็น แมค ครับ ด้านซ้ายมือด้านบนก็จะเป้นร้าน ขนมปังมีอาหาร อิตาเลียนครับ

ต่อจากกลับมาที่ Terminal 5 ผมก็นั่้งเล่นทั้งวันครับ จนถึงเวลา  5 โมงเย็น ก็กลับมา Terminal 1 เพื่อซื้อ สตาบัค กับ Mc ไปกินที่ terminal 5 ครับ แล้วก็กลับ  คืนนี้จะพิเศษหน่อยครับ มีของกินเล่น   
   
    จากนั้นก็เหมือนเดินครับทุกอย่างเหมือนคืนแรก นั่งเล่นเกม ดูการ์ตูน ดูหนัง ครับ วันนี้ มีดีเลย์เที่ยวบินเหมือนเดิมครับ ก็มีป้าแก่ๆ มานั่งข้างๆขอเสียบที่ชาร์ตแบตโทรศัพท์ด้วยผมก็ ยินดีครับ ป้าแก่ก็ชวนคุย ถามนู้นนี้นั่นครับ ประมาณ ตี 1 กว่าผมก็กลับคาเก้าอี้แล้วครับ เหมือนเดิมครับ เชือกผูกขา เหมือนเดิมครับ กอดกระเป้าเป้นอน ครับ ประมาณ ตี 5 ประเค้าก็ปลุกเราบอกว่า จะไปแล้วน่ะเค้าก็ถามว่า มีตังกินข้าวรึป่าว เราก้บอกว่าเหลือนิดเดียว ป้าแก่ก็ให้ 40$ ครับผมไม่ลังเลเลยครับ ขว้าไว้แล้ว ก็ขอบคุณงามๆ ครับเพราะ ความเกรงใจทำให้ผมพลาดอะไรหลายๆอย่างใน เมกา ครับ 

พอป้าเค้าไปผมก็ ย้ายไป Terminal 1 เหมือนเดิมครับ  แต่คราวนี้ผมล้างหน้า เปลี่ยนเสื้ออะไรเสร็จก็เห้นคนนอน อยู่ตรงกระจกทางขวามือสุดของ  ในรูปด้านบน ตอนเช้าไม่มีคนเลย มีคนนึงนอนเหยียดขาเลยยาวนอนกลับเลยครับ ผมทำอะไรเสร็จก็ มาทำตามบ้างครับ ง่วงมากๆตอนนั้น ผมก็ นอนเหยียดหมดเลยครับ มันเชือกกับขาเหมือนเดิมครับ นอนหนุนเป้   หลับลึกมากครับ จน ประมาณ 10 โมง มีพนักงาน มาปลุกมาถามว่าจะไปไหน เราก็บอก ว่ากลับไทย เที่ยวบิน ตีเที่ยงคืนกว่าๆ  แต่เราไม่ได้บอกว่ากลับวันไหน 5555+  ก็ขึ้นไปกินข้าวเหมือนเดิม  เที่ยงก็กลับมา Terminal 5 เล่นเน็ตเหมือนเดิมครับ 5 โมงก็ไปซื้อของมากิน จาก terminal 1 ครับ  ชีวิตดำเนินอยู่อย่างนี้ มา 6 คืน 

คืนสุดท้าย สุดจะทนครับผมเหนียวเป็นน้ำมันเลยครับ ต้องการอาบน้ำ เลยจองโรงแรม ใกล้ๆ สนามบิน คืนล่ะ 100$ มีรับรับ ส่งฟรีครับ  เลยจองในเว็บ แล้วก็ ไป Check - in โรงแรมครับ โรงแรมนี้อยู่ ทางเหนือของ สนามบินครับ 




พอไปถึงโรงแรม เข้าห้องอะไรเรียบร้อย ผมอาบน้ำ แล้วก็ สไกด์ หาแม่  ตอนนั้นเวลา  4  โมงเย็น ครับ 
ผมคุยเสร็จก็ลงไปนอน แล้วก้ กลับยาวเลยครับ ตื่นอีกที 10 โมง ของอีกวันนึง  ซึ้งเป็นวันที่ผมจะได้กลับบ้านแล้วครับ ก็เลยอาบน้ำแต่งตัว เก็บกระเป่าแล้วก้ไปสนามบินครับ  จากนั้นก็นั่งกินข้าว รอโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องกลับบ้านครับ 


  สรุปน่ะครับ   ใครที่จะได้ไปนอนสนามบิน JFK ให้ไปนอนที่ Terminal 4 หรือ 5 ครับ แต่  5 จะดีที่สุดเพราะมีปลั๊กไฟ กับเน็ตให้เล่นฟรี นอนพื้นได้ไม่มีปัญหาครับ ผมก็นอน พื้นช่วงคืนหลังๆครับ 
เวลากินข้าว ผมแนะนำไปกินข้าวที่ Terminal 1 จะดีกว่าครับเพราะ สะอาด คนไม่แย่งกันซื้อครับ
ถามว่าจะอันตรายมั้ย  ผมก็กลัวครับแต่ ที่นอนมา 6 คืน ผมไม่เจออะไรเลยครับ มีแต่เพื่อนฝรั่งที่รอขึ้นเครื่องเข้ามาคุยด้วยเป้น มิตรมากๆครับ   ถ้ามีอะไรสงสัยถามผมได้น่ะครับ เรื่องการนอนที่สนามบิน ผมเห็นคนยังไม่ค่อยเขียนกันเรื่องนอนที่สนามบิน  ขอบคุณที่อ่านน่ะครับ 


ทางเดินใน Terminal 5 ครับ โล่งๆคนไม่ค่อยเยอะครับ

8 ความคิดเห็น:

  1. สรุปคือนอนที่ terminal 5 ใช่ไหมค่ะพี่+กับฟรี wifi ตลอด
    พอดีหนูต้องรอไฟท์ตอนเช้าเลยคิดว่าจะนอนที่สนามบินค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นอนได้ สบายครับ ไฟล์เช้าสุด คือ ตี 4 ดึกสุด ตี 2 ดูแลเรื่องกระเป๋าดีดีครับ

      ลบ
  2. ตุดยอดๆๆ วางแผนไปเที่ยวนิวยอร์ก 2 คืนที่พักเต็มหมด เห็นทางเลือกละ ขอบคุณครับ ห้าๆๆๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ระวัง เหนี่ยวตัวอาบน้ำน่ะครับ ฮ่าๆๆ

      ลบ
  3. เยี่ยมม ตอนแรกคิดอยู่ว่านอนสนามบิน1 คืนจะทำอะไรดี รอต่อเครื่องตั้ง1 คืน แต่พอเจอ 6 คืน ยอมเลย เก่งมาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอนแรกก็ไม่กล้า นอนหรอกครับ แต่มีฝรั่งตกเครื่อง ติดพายุ มานอนกันเลย นอนตาม สบายเลยครับ

      ลบ
  4. ขอบคุณรีวิวคาะ มีประโยชน์มากจริงๆ เพราะเราก็ติดอยู่ JFK อยู่ตอนนี้ รอเคาน์เตอร์เช็คอินเปิดอีก 4 ชั่วโมง

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ24 ตุลาคม 2561 เวลา 06:59

    ขอบคุณรีวิวมากครับ กำลังไป JFK

    ตอบลบ